การออกแบบอาคารแบบโลหะเป็นกระบวนการเฉพาะทางที่ผสมผสานหลักการทางวิศวกรรม ความต้องการในการใช้งาน และองค์ประกอบด้านความสวยงาม เพื่อสร้างโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ ทนทาน และเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ต่างจากการก่อสร้างแบบดั้งเดิม การออกแบบอาคารโลหะเน้นการใช้ชิ้นส่วนที่ถูกออกแบบล่วงหน้า (pre-engineered) ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่โรงงานและประกอบที่หน้างาน เพื่อให้เกิดความแม่นยำ ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความสม่ำเสมอ กระบวนการออกแบบเริ่มต้นด้วยการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้งานของอาคารว่าเป็นสำหรับใช้เก็บสินค้า โรงงานผลิต การเกษตร หรือที่อยู่อาศัย ซึ่งจะกำหนดพารามิเตอร์หลัก เช่น ขนาด ความสามารถในการรับน้ำหนัก และการจัดวางภายใน วิศวกรรมโครงสร้างถือเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบอาคารโลหะ เพื่อให้โครงสร้างหลังคาและผนังสามารถรองรับแรงจากสภาพแวดล้อม (หิมะ ลม กิจกรรมแผ่นดินไหว) และแรงภายใน (อุปกรณ์ สินค้าคงคลัง) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักออกแบบจะเลือกใช้เหล็กที่มีเกรดเหมาะสม รูปแบบโครงสร้าง (clear span, modular เป็นต้น) และประเภทแผ่นผนังหรือแผ่นหลังคา (แบบมีฉนวน แบบลอน เป็นต้น) ตามข้อกำหนดเหล่านี้ ประสิทธิภาพด้านพลังงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยมีตัวเลือกสำหรับการติดตั้งฉนวน หลังคาสะท้อนแสง และระบบระบายอากาศตามธรรมชาติ ซึ่งถูกผสานเข้าไว้ในกระบวนการออกแบบเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อีกหนึ่งมิติของการออกแบบคือการปรับแต่งด้านความสวยงาม โดยมีตัวเลือกสี ลวดลายพื้นผิว และรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยให้อาคารสอดคล้องกับสไตล์สถาปัตยกรรมหรืออัตลักษณ์ของแบรนด์ ซอฟต์แวร์การออกแบบและเครื่องมือสร้างแบบจำลองสามมิติถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการจัดวางพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมายการก่อสร้างในท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้คืออาคารที่ผสมผสานระหว่างการใช้งานได้จริง ความทนทาน และความประหยัด พร้อมทั้งสามารถปรับเปลี่ยนหรือขยายในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นโรงรถขนาดเล็กหรือโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การออกแบบอาคารโลหะจะช่วยให้อาคารตรงตามเป้าหมายด้านประสิทธิภาพการใช้งาน พร้อมลดระยะเวลาการก่อสร้างและของเสียที่เกิดขึ้น