โรงนาแบบเกษตรอินทรีย์สำหรับวัวเป็นอาคารเลี้ยงสัตว์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอันเข้มงวดของเกษตรอินทรีย์ โดยให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงสารเคมีสังเคราะห์ ยาปฏิชีวนะ และสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) โรงนาเหล่านี้สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งส่งเสริมพฤติกรรมตามธรรมชาติของฝูงวัว พร้อมทั้งรับประกันความสอดคล้องตามข้อกำหนดในการรับรองเกษตรอินทรีย์ หลักการสำคัญประการหนึ่งคือการให้วัวสามารถเข้าถึงทุ่งหญ้าได้ โดยออกแบบโรงนาให้สามารถออกไปนอกอาคารได้ทุกวันในช่วงสภาพอากาศเหมาะสม เพื่อให้วัวได้กินหญ้า ออกกำลังกาย และได้รับแสงแดด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นทั้งหมดตามมาตรฐานปศุสัตว์อินทรีย์ พื้นที่ภายในอาคารใช้เป็นที่พักพิงในช่วงฝนตกหรืออากาศไม่ดี มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอให้วัวแต่ละตัวสามารถยืน นอน และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ หลีกเลี่ยงการเลี้ยงหนาแน่น วัสดุปูพื้นเป็นวัสดุอินทรีย์และธรรมชาติ เช่น ฟางข้าวสาลี เศษไม้ หรือปอ (Hemp) ซึ่งจะถูกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความสะอาด โดยไม่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อสังเคราะห์ การทำความสะอาดใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู หรือน้ำมันหอมระเหย เพื่อป้องกันการตกค้างของสารเคมี พื้นที่เก็บอาหารสัตว์ภายในหรือใกล้กับโรงนานั้นใช้เก็บอาหารสัตว์ที่ได้รับการรับรองแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้มั่นใจว่าวัวได้รับอาหารที่ปราศจาก GMOs สารกำจัดศัตรูพืชสังเคราะห์ หรือสารเร่งการเจริญเติบโต แหล่งน้ำต้องสะอาดและปราศจากมลพิษ พร้อมระบบที่ป้องกันการเน่าเสีย การจัดการมูลสัตว์ในโรงนาแบบเกษตรอินทรีย์เน้นกระบวนการธรรมชาติ โดยใช้ระบบทำปุ๋ยหมักเพื่อแปรรูปมูลสัตว์ให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์สำหรับปลูกพืช ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่ห้ามใช้ปุ๋ยสังเคราะห์ โรงนาอาจมีพื้นที่แยกไว้สำหรับลูกวัว เพื่อให้ได้รับนมหรืออาหารอินทรีย์ และเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนสุขภาพโดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ เว้นแต่ในกรณีจำเป็นจริงๆ การระบายอากาศและการให้แสงสว่างได้รับการออกแบบให้เลียนแบบวัฏจักรตามธรรมชาติ โดยมีหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศให้ถ่ายเทได้ดี เพื่อรักษาคุณภาพอากาศ ด้วยการสอดคล้องกับหลักการเกษตรอินทรีย์ โรงนาประเภทนี้จึงช่วยสนับสนุนการผลิตนมและเนื้อวัวอินทรีย์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่ผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม